Brand: Blackmores

Product Code: Blackmores_FO1000MG_200C

Availability: In stock

0.00 ฿

Qty

แบลคมอร์ส ฟิช ออยล์ 1000 มก. 200 แคปซูล

ฆอ. 2911/2553           

อย. เลขที่ 10-3-08338-1-0021

แบลคมอร์ส ฟิช ออยล์ 1000 น้ำมันปลาชนิดแคปซูล ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์นี้ให้กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 ได้แก่ อีพีเอและดีเอชเอ เป็นน้ำมันปลาที่ได้จากปลาทะเล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลหลอดเลือดหัวใจและสมอง รับประทานได้ตั้งแต่เด็กวัยเรียนไปจนถึงผู้ใหญ่วัยเกษียณ

ใน 1 แคปซูลประกอบด้วย

  • น้ำมันปลาทะเล 1000 มิลลิกรัม ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง(โอเมก้า-3) คือ
    กรดไอโคซาเพนทาอิโนอิก (อีพีเอ) 180 มิลลิกรัม
    กรดโดโคซาเฮกซาอิโนอิก (ดีเอชเอ) 120 มิลลิกรัม 
  • วิตามินอี 10 หน่วยสากล

 วิธีรับประทาน:

บุคคลทั่วไป รับประทาน 1,000 มก./วัน เพื่อป้องกันไขมันในเลือดสูง

ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ หลอดเลือด หรือผู้ที่ต้องการดูแลระดับไขมันในเลือด ดูแลความดันโลหิต ระดับไตรกลีเซอไรด์ หรือผู้ที่มีปัญหาไขข้ออักเสบ ควรทาน 2,000-3,000 มก. ต่อวัน

น้ำมันปลา เป็นแหล่งสำคัญของกรดไขมันจำพวกโอเมก้า 3 สกัดมาจากปลาทะเลน้ำลึกในเขตหนาว ซึ่งปลาเหล่านี้จะผลิตกรดไมขันจำเป็นเพื่อป้องกันการแข็งตัวของเลือดเมื่ออยู่ในน้ำทะเลขั้วโลก เมื่อชาวเอสกีโมรับประทานปลาเหล่านี้ไปจึงได้รับกรดไขมันจำเป็นเหล่านี้ด้วยจึงทำให้ไม่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด

น้ำมันปลา ปัจจุบันเราพบว่าน้ำมันปลามีประโยชน์ในการป้องกันหรือลดความรุนแรงของโรค หัวใจ ความดันเลือดสูง ข้ออักเสบ ปวดศีรษะ ไมเกรน และเบาหวาน นอกจากนี้ยังอาจจะป้องกันโรคมะเร็ง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคไต และโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย และยังช่วยเพิ่ม HDL (ไขมันชนิดดีที่จะช่วยลด LDLไขมันชนิดร้ายที่ทำให้หลอด เลือดอุดตัน)

น้ำมันปลาต่างจากน้ำมันตับปลาตรงที่ น้ำมันตับปลาสกัดจากตับของปลาทะเลบางชนิด ซึ่งมีวิตามิน A และ D ในปริมาณสูง จึงเหมาะสำหรับเสริมสร้างกระดูกและสายตา ซึ่งในน้ำมันปลามีน้อยกว่ามาก

น้ำมันปลา เหมาะกับ

  1. ผู้ที่หัวใจขาดเลือดและสมองขาดเลือดชั่วคราว
    • การรับประทานน้ำมันปลา จะช่วยยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือดและช่วยลดไขมันในเลือด จึงป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจและสมอง โดยมีผลการวิจัยทางการแพทย์พบว่า กลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจที่รับประทานน้ำมันปลาวันละ 3 กรัม ร่วมกับวิตามินอีธรรมชาติ 200-400 ยูนิต สามารถลดอัตราการตายเนื่องจากหัวใจล้มเหลวลง 15% เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ไม่ได้รับประทานน้ำมันปลา
  2. ผู้ที่หลอดเลือดอุดตัน
    • กรดไขมันไม่อิ่มตัวในน้ำมันปลา เป็นสารตั้งต้นของสารกลุ่มไอโคซานอยด์ (Eicosanoids) อันได้แก่ พรอสตาแกลนดิน-3 (Prostaglandins-3) และทรอมบอกแซน-3 (Thromboxan-3) ซึ่งสารกลุ่มนี้จะยับยั้ง การเกาะตัวของเกล็ดเลือด จึงช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด และช่วยให้หลอดเลือดขยายตัวทำให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น
  3. ผู้ที่ไขมันในเลือดสูง
    • กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 จะช่วยยับยั้งการสร้างไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglycerides) และไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นต่ำมาก (VLDL) นอกจากนี้ยังเพิ่ม HDL ซึ่งเป็นไลโปโปรตีนที่นำโคเรสเตอรอลไปทำลายที่ตับ จึงช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
  4. ลดความดันโลหิตสูง
    • การรับประทานน้ำมันปลาช่วยทำให้หลอดเลือดขยายตัว และป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น จึงมีผลให้ความดันเลือดลดลง
  5. ผู้ที่เป็นรูมาตอยด์และข้อเสื่อม
    • กรดไขมันในน้ำมันปลา ช่วยลดการสร้างสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ (สารกลุ่มลิวโคไตรลิน) ช่วยบรรเทาอาการปวด บวม อักเสบตามข้อและยังช่วยลดปริมาณการใช้ยาแก้ปวดข้อ (NSAID) ลงได้

เหมาะสำหรับ : 

  • ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ซึ่งได้แก่
  1. ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป
  2. ผู้ที่สูบบุหรี่จัด
  3. ผู้ที่ชอบรับประทานอาหารประเภทที่มีไขมันสูง
  4. ผู้ที่ทำงานนั่งโต๊ะประจำ และขาดการออกกำลังกาย
  • ผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง โดยเฉพาะไตรกลีเซอร์ไรด์
  • ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ หรือ โรคหลอดเลือดอุดตัน
ผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูง